ข้อมูลพืชพรรณ

ต้นมะขาม

ชื่อวิทยาศาสตร์: Tamarindus indica L.
ชื่อสามัญ: Tamarind, Indian date
วงศ์: Leguminosae - Caesalpinioideae
ชื่ออื่นๆ:

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
ไม้ต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามปลายกิ่ง หนึ่งช่อมี 10-15 ดอก ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และหวาน

นิเวศวิทยา:
มะขามช่วยในการตรึงไนโตรเจนในดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงคุณภาพของดิน นอกจากนี้ มะขามยังช่วยให้เกิดร่มเงา และช่วยลดการพังทลายของหน้าดิน

การขยายพันธุ์:
เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง, และเสียบกิ่ง

ส่วนที่ใช้:
ใบ, ดอก, ฝัก, เมล็ด, เปลือก, และราก

สรรพคุณทางยา:
ราก - แก้ท้องร่วง สมานแผล รักษาเริม และงูสวัด เปลือกต้น - แก้ไข้ ตัวร้อน แก่น - กล่อมเสมหะ และโลหิต ขับโลหิต ขับเสมหะ รักษาฝีในมดลูก รักษาโรคบุรุษ เป็นยาชักมดลูกให้เข้าอู่ ใบสด (มีกรดเล็กน้อย) - เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้ แก้ไอ แก้บิด รักษาหวัด ขับเสมหะ หยอดตารักษาเยื่อตาอักเสบ แก้ตามัว ฟอกโลหิต ขับเหงื่อ ต้มผสมกับสมุนไพรอื่นๆ อาบหลังคลอดช่วยให้สะอาดขึ้น เนื้อหุ้มเมล็ด - แก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ยาถ่าย ขับเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ เป็นยาสวนล้างท้อง ฝักดิบ - ฟอกเลือด และลดความอ้วน เป็นยาระบายและลดอุณหภูมิในร่างกาย บรรเทาอาการไข้ เมล็ดในสีขาว - เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนตัวกลมในลำไส้ พยาธิเส้นด้าย เปลือกเมล็ด - แก้ท้องร่วง แก้บิดลมป่วง สมานแผลที่ปาก ที่คอ ที่ลิ้น และตามร่างกาย รักษาแผลสด ถอนพิษและรักษาแผลที่ถูกไฟลวก รักษาแผลเบาหวาน เนื้อในฝักแก่ (มะขามเปียก) - รับประทานจิ้มเกลือ แก้ไอ ขับเสมหะดอกสด – เป็นยาลดความดันโลหิตสูง กลุ่มยาแก้บิด ท้องเดิน ท้องร่วง โรคกระเพาะ

ประโยชน์อื่นๆ:
ใช้เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ และยังใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังได้อีกด้วย