หน้าแรก
ข่าวสารกองบริหารกายภาพฯ
ข่าวกิจกรรมกองบริหารกายภาพฯ
ข่าวงานกองบริหารกายภาพฯ
วีดีทัศน์กองบริหารกายภาพฯ
วีดีทัศน์ข่าวเกี่ยวกับกองบริหารกายภาพฯ
ระบบบริการของเรา
จองห้องประชุม
จองรถ
ฐานข้อมูลห้องเรียน
ค้นหาห้องเรียน
ค้นหาเบอร์ติดต่อภายใน
ส่วนงานกองบริหารกาพฯ
งานอนุรักษ์พลังงานฯ
งานสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เชียงราย
เกี่ยวกับกองบริหารกายภาพฯ
ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงาน
โครงสร้างหน่วยงาน
บุคลากรกองบริหารกายภาพฯ
ข้อมูลติดต่อ
ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
visitor
ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
เข้าสู่ระบบ
ข้อมูลพืชพรรณ
หน้าแรก
-
รายชื่อพืชพรรณ
หิรัญญิการ์
ชื่อวิทยาศาสตร์: Beaumontia grandiflora Wall.
ชื่อสามัญ: Herald Trumpet, Easter Lily Vine, หรือ Nepal Trumpet.
วงศ์:
Apocynaceae
ชื่ออื่นๆ:
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีน้ำยางสีขาวคล้ายน้ำนม ลำเถาเลื้อยพาดพันไปตามพุ่มไม้และเรือนยอดของต้นไม้สูงๆ ชอบขึ้นอยู่ตามชายป่าดิบ หรือป่าเบญจพรรณใกล้ลำธาร ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกเฉียงใต้ ใบ ออกเดี่ยวๆ อยู่ตรงกันข้าม ใบแต่ละคู่ทำมุมฉากซึ่งกันและกัน รูปมนกว้างประมาณ 11 x 19 ซม. ปลายใบแหลมเป็นติ่ง ขอบใบเรียบ ด้านล่างมีเส้นแขนงใบปรากฎเป็นโครงชัดเจน ไม่มีขนปกคลุม ดอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกบนช่อสั้นๆ ที่ปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมี 6-11 ดอก บานไม่พร้อมกัน ครั้งหนึ่งจะมีดอกบานเพียง 1-3 ดอก ก้านช่อดอกและก้านดอกมีขนละเอียดสีน้ำตาลปนแดงปกคลุมทั่วไป ก้านดอกยาว 2.0-3.2 ซม. ดอกตูมสีเหลืองอ่อน หรือสีเหลืองอมเขียว กลีบรองกลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบแยกออกจากกัน แต่ละกลีบแผ่กว้างซ้อนทับกัน รูปไข่หรือรูปมนขนาด 2.0 x 3.7 ซม.ปลายแหลม ขอบเรียบ แผ่นกลีบมีลายเส้นร่างแหปรากฎชัดเจน มีขนบางๆ ปกคลุมประปรายที่บริเวณกลางกลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกันคล้ายรูปปากแตร คอดเข้าหากันที่ฐานเป็นหลอดสั้นๆ ตอนบนบานแผ่กว้างแยกออกเป็น 5 กลีบ มองจากด้านบนคล้ายกับรูปถ้วยตื้นๆ เมื่อดอกบานเต็มที่กว้าง 12-16 ซม. กลีบดอกสีขาวสะอาด แต้มด้วยจุดสีเขียวเรื่อๆ ที่ใจกลางกลีบดอก ซึ่งเป็นบริเวณที่เกสรผู้ 5 อันติดอยู่ ก้านเกสรแต่ละอันแยกออกจากกันเป็นอิสระ แล้วโค้งอับเรณูมาประกบติดกัน อับเรณูค่อนข้างยาว ลักษณะคล้ายหัวลูกศร ตุ่มเกสรเมียอยู่ภายในปริมณฑลของอับเรณูทั้ง 5 อัน รังไข่ตั้งอยู่ที่ฐานกลีบดอกซึ่งเป็นหลอดแคบๆ มีน้ำหวานขังอยู่รอบนอก ฝักรูปบรรทัด ขนาดประมาร 5.5 x 37.0 ซม. ผนังหนาและแข็งมาก ฝักแก่ผนังปริแยกออกจากกันเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดแบนๆ สีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ยาวประมาณ 1.7 ซม. ที่ส่วนปลายของเมล็ดมีขนยาวอ่อนนุ่มติดอยู่เป็นกระจุก ยาว 3.5-5.0 ซม. ออกดอกเดือนธันวาคม-มกราคม
นิเวศวิทยา:
ชอบแสงแดดจัดกลางแจ้ง ขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง พบตามชายป่าดิบ หรือป่าเบญจพรรณใกล้ลำธาร
การขยายพันธุ์:
เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง, และปักชำ
ส่วนที่ใช้:
เมล็ด, และส่วนของลำต้น
สรรพคุณทางยา:
สรรพคุณทางยา โดยเฉพาะเมล็ดที่ใช้เป็นยาบำรุงกำลังและบำรุงหัวใจได้ เนื่องจากมีสารจำพวกคาร์ดีโนไลด์ แต่ต้องระมัดระวังในการใช้ เนื่องจากหากรับประทานมากเกินไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้.
ประโยชน์อื่นๆ:
ปลูกเป็นไม้ประดับ, ประโยชน์ทางยา, ตำรายาไทย, เมล็ดเป็นยาบำรุงหัวใจ, เนื่องจากมีสารจำพวก