ปาล์มสิบสองปันนา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Phoenix loureiri Kunth
ชื่อสามัญ: dwarf date palm
วงศ์: Palmae
ชื่ออื่นๆ:
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
ปาล์มสิบสองปันนามีขนาดลำต้นที่เล็ก และเติบโตช้า มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร ส่วนก้านใบนั้นยาว 60 - 120 เซนติเมตร ลักษณะเป็นแบบใบมะพร้าว มีใบย่อยประมาณ 100 ใบ ก้านใบจัดเรียงในระนาบเดี่ยว ส่วนใบย่อยเรียงเป็นสองข้าง ใบย่อยแต่ละใบยาว 15-25 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลักษณะโค้งลง สีเขียวอมเทา ด้านใต้ใบมีขนเล็กๆ ส่วนดอกนั้นมีขนาดเล็ก เป็นสีเหลืองอ่อน มีช่อดอกยาว 45 เซนติเมตร และมีผลนั้นเป็นผลแบบเมล็ดเดียว คล้ายอินทผลัมขนาดเล็ก เนื้อในบาง
นิเวศวิทยา:
เป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถนำไปปลูกได้ทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
การขยายพันธุ์:
เพาะเมล็ดในฤดูใบไม้ผลิ
ส่วนที่ใช้:
ลำต้นและใบ
สรรพคุณทางยา:
ช่วยดูดสารพิษในอากาศ โดยเฉพาะสารไซลีน
ประโยชน์อื่นๆ:
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีขนาดเล็กเติบโตช้า รูปใบสวยงาม เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย แต่ก็สามารถเติบโตได้ในหลายภูมิภาคของโลก
ชื่ออื่นๆ:
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
ปาล์มสิบสองปันนามีขนาดลำต้นที่เล็ก และเติบโตช้า มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร ส่วนก้านใบนั้นยาว 60 - 120 เซนติเมตร ลักษณะเป็นแบบใบมะพร้าว มีใบย่อยประมาณ 100 ใบ ก้านใบจัดเรียงในระนาบเดี่ยว ส่วนใบย่อยเรียงเป็นสองข้าง ใบย่อยแต่ละใบยาว 15-25 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลักษณะโค้งลง สีเขียวอมเทา ด้านใต้ใบมีขนเล็กๆ ส่วนดอกนั้นมีขนาดเล็ก เป็นสีเหลืองอ่อน มีช่อดอกยาว 45 เซนติเมตร และมีผลนั้นเป็นผลแบบเมล็ดเดียว คล้ายอินทผลัมขนาดเล็ก เนื้อในบาง
นิเวศวิทยา:
เป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถนำไปปลูกได้ทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
การขยายพันธุ์:
เพาะเมล็ดในฤดูใบไม้ผลิ
ส่วนที่ใช้:
ลำต้นและใบ
สรรพคุณทางยา:
ช่วยดูดสารพิษในอากาศ โดยเฉพาะสารไซลีน
ประโยชน์อื่นๆ:
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีขนาดเล็กเติบโตช้า รูปใบสวยงาม เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย แต่ก็สามารถเติบโตได้ในหลายภูมิภาคของโลก
-- ยังไม่มีรูปประกอบ --